เมนู

อรรถกถาปฐมกรณียวิมาน


ปฐมกรณียวิมาน มีคาถาว่า อุจฺจมิทํ มณิถูณํ เป็นต้น. ปฐม-
กรณียวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน กรุงสาวัตถี
สมัยนั้น อุบาสกชาวสาวัตถีคนหนึ่ง ถือเครื่องอุปกรณ์อาบน้ำไปแม่น้ำ
อจิรวดี กำลังเดินมา เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าบิณฑบาตยังกรุง
สาวัตถี เข้าไปถวายบังคมแล้วกราบทูลอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ใครนิมนต์แล้วหรือยัง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดุษณี อุบาสกนั้นทราบว่า
ยังไม่มีใครนิมนต์ กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอนิมนต์พระผู้มี-
พระภาคเจ้าโปรดอนุเคราะห์รับภัตตาหารของข้าพระองค์เถิด พระผู้มี-
พระภาคเจ้าทรงรับนิมนต์ด้วยดุษณีภาพ อุบาสกนั้นดีใจ นำพระผู้มี-
พระภาคเจ้าไปเรือน ปูลาดอาสนะที่สมควรแก่พระพุทธเจ้า แล้วนิมนต์
พระผู้มีพระภาคเจ้าให้ประทับนั่งบนอาสนะนั้น เลี้ยงดูจนอิ่มหนำด้วยข้าว
น้ำอันประณีต พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยเสร็จแล้ว ทรงทำอนุโมทนาแก่
อุบาสกนั้น เสด็จหลีกไป เรื่องที่เหลือเช่นกับวิมานกล่าวมาติด ๆ กัน
เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า
วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง 12 โยชน์ โดยรอบมีห้อง
รโหฐาน 700 ห้อง โอฬาร มีเสาแก้วไพฑูรย์ ลาด
ด้วยเครื่องลาดที่ชอบใจ สวยงาม ท่านนั่งดื่มกิน ใน
วิมานนั้น มีพิณทิพย์บรรเลงไพเราะ มีเบญจกามคุณ
มีรสเป็นทิพย์ และเทพนารีแต่งองค์ด้วยอาภรณ์ทอง
ฟ้อนรำอยู่ เพราะบุญอะไร วรรณะของท่านจึงเป็น

เช่นนี้ เพราะบุญอะไร ผลอันนี้จึงสำเร็จแก่ท่าน และ
โภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่ท่าน.

ดูก่อนเทวะผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถาม
ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะ
บุญอะไร ท่านจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และ
วรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทวบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า บัณฑิต
ผู้รู้แจ้งพึงกระทำบุญทั้งหลายในพระพุทธเจ้าผู้เสด็จ
ไปแล้วโดยชอบ ซึ่งเป็นเขตที่ถวายทานแล้วมีผล
มาก ข้าพเจ้าทำจิตให้เลื่อมใสในพระองค์ว่า พระ-
พุทธเจ้าเสด็จจากป่ามาสู่บ้านเพื่อประโยชน์แก่เรา
หนอ จึงเข้าถึงดาวดึงส์ เพราะบุญนั้น วรรณะของ
ข้าพเจ้าจึงเป็นเช่นนี้ เพราะบุญนั้น ผลอันนี้จึงสำเร็จ
แก่ข้าพเจ้า และโภคะทุกอย่างที่น่ารักจึงเกิดแก่
ข้าพเจ้า.

ข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ข้าพเจ้าขอบอก
แก่ท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าได้ทำบุญใดไว้
เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้
และวรรณะจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปณฺฑิเตน ได้แก่ ผู้มีปัญญา. บทว่า
วิชานตา ได้แก่ รู้ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของตน. บทว่า สมฺมคฺคเตสุ
ได้แก่ ผู้ปฏิบัติโดยชอบ. บทว่า พุทฺเธสุ ได้แก่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.

บทว่า อตฺถาย ได้แก่ เพื่อประโยชน์ อีกอย่างหนึ่ง เพื่อความ
เจริญ. บทว่า อรญฺญา ได้แก่ จากวิหาร ท่านกล่าวหมายถึงพระ-
เชตวัน . บทว่า ตาวตึสูปโค ความว่า เข้าถึงหมู่เทพชั้นดาวดึงส์ หรือ
ภพชั้นดาวดึงส์ โดยอุบัติ. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.
จบอรรถกถาปฐมกรณียวิมาน

7. ทุติยกรณียวิมาน


ว่าด้วยทุติยกรณียวิมาน


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[57] วิมานเสาแก้วมณีนี้สูง 12 โยชน์ โดยรอบ
มีห้องรโหฐาน 700 ห้อง โอฬาร ฯ ล ฯ และ
วรรณะของท่านจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้นดีใจ ถูกพระโมคคัลลานะถามแล้ว
ก็พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า บัณฑิต
ผู้รู้แจ้งพึงกระทำบุญทั้งหลายในภิกษุทั้งหลายผู้ไป
แล้วโดยชอบ ซึ่งเป็นเขตที่ถวายทานแล้วมีผลมาก
ข้าพเจ้าทำจิตให้เลื่อมใสในภิกษุเหล่านั้นว่า ภิกษุ
ทั้งหลายจากป่ามาสู่บ้านเพื่อประโยชน์แก่เราหนอ จึง
เข้าถึงดาวดึงส์ เพราะบุญนั้น วรรณะของข้าพเจ้าจึง
เป็นเช่นนี้ ฯ ลฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสว
ไปทุกทิศ.

จบทุติยกรณียวิมาน